คำถาม : การนับอายุของผู้สมัครทำประกันนั้นใช้หลักเกณฑ์อย่างไรบ้าง
คำตอบ : การนับอายุของผู้สมัครทำประกันจะมีผลกับอัตราค่าเบี้ยประกันภัยที่ลูกค้าต้องชำระโดยตรง ดังนั้น หลักเกณฑ์วิธิการนับอายุของบริษัทประกันภัยต่างๆ จึงมีความสำคัญในการตัดสินใจทำประกันของลูกค้า
สำหรับในกรณีของประกันภัยสุขภาพของบริษัท แอลเอ็มจีประกันภัย จำกัด (LMG) นั้น จะอ้างอิงอายุของผู้สมัครทำประกัน ณ วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้หรือที่เรียกว่า "วันที่มีการบังคับประกัน" เป็นหลัก
"วันที่มีการบังคับประกัน" หรือ "Effective Date" นั้น โดยปกติแล้วหมายถึง วันที่ลูกค้ากรอกใบสมัคร หรือวันที่ลูกค้าขอให้กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ (ในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้แจ้งอย่างชัดเจน) แต่ทั้งนี้ จะเป็นวันที่ "ก่อน" วันที่ลูกค้ากรอกใบสมัครไม่ได้! และจะขอให้กรมธรรม์มีผลบังคับ "ภายหลัง" วันที่กรอกใบสมัครเกิน 30 วันก็ไม่ได้เช่นกัน
ตัวอย่างเช่น ลูกค้าเกิดวันที่ 10 มกราคม 2510 และจะมีอายุครบ 46 ปี ณ วันที่ 10 มกราคม 2556 ซึ่งทำให้ต้องจ่ายค่าเบี้ยที่สูงขึ้นเพราะตกอยู่ในช่วงอายุใหม่ที่ 46-50 ปีแทนช่วงเดิมที่อายุ 41-45 ปี
อย่างไรก็ดี ลูกค้าท่านนี้ได้ยื่นใบสมัคร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 โดยประสงค์อยากให้กรมธรรม์มีผลบังคับวันที่ 2 มกราคม 2556 หากพิจารณาแล้วอนุมัติผ่าน (อนึ่ง ลูกค้าจะขอ effective date ให้เป็นวันที่ก่อน 31 ธันวาคม 2555 หรือหลัง 30 มกราคม 2556 ไม่ได้ เพราะเกิน 30 วัน)
ในกรณีเช่นนี้ ลูกค้าจะถูกคิดค่าเบี้ยที่อัตราของอายุ 45 ปีเท่านั้น ตามช่วงอายุของลูกค้า ณ วันที่มีผลบังคับ
ส่วนผลการพิจารณารับประกันนั้น LMG จะนำส่งเป็น Offer Letter ที่แสดงเงื่อนไขในการรับประกันไว้ให้ลูกค้า โดยปกติภายใน 2-3 วันทำการ นับจากวันที่ LMG ได้รับใบสมัครและได้รับข้อมูลจากลูกค้าครบถ้วน เนื่องจากในบางกรณีลูกค้าผู้สมัครบางท่านอาจถูกกำหนดเงื่อนไขการรับประกันเพิ่มเติมได้ เช่น อาจมีการคิดค่าเบี้ยเพิ่มขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงทางสุขภาพของลูกค้ารายนั้น หรือมีข้อยกเว้นไม้คุ้มครองโรคบางโรคที่เข้าเงื่อนไขเป็นโรคที่เป็นมาก่อนการทำประกัน ซึ่ง LMG ยกเว้นไม่คุ้มครองอยู่แล้ว เป็นต้น
สำหรับในกรณีของประกันภัยสุขภาพของบริษัท แอลเอ็มจีประกันภัย จำกัด (LMG) นั้น จะอ้างอิงอายุของผู้สมัครทำประกัน ณ วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้หรือที่เรียกว่า "วันที่มีการบังคับประกัน" เป็นหลัก
"วันที่มีการบังคับประกัน" หรือ "Effective Date" นั้น โดยปกติแล้วหมายถึง วันที่ลูกค้ากรอกใบสมัคร หรือวันที่ลูกค้าขอให้กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ (ในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้แจ้งอย่างชัดเจน) แต่ทั้งนี้ จะเป็นวันที่ "ก่อน" วันที่ลูกค้ากรอกใบสมัครไม่ได้! และจะขอให้กรมธรรม์มีผลบังคับ "ภายหลัง" วันที่กรอกใบสมัครเกิน 30 วันก็ไม่ได้เช่นกัน
ตัวอย่างเช่น ลูกค้าเกิดวันที่ 10 มกราคม 2510 และจะมีอายุครบ 46 ปี ณ วันที่ 10 มกราคม 2556 ซึ่งทำให้ต้องจ่ายค่าเบี้ยที่สูงขึ้นเพราะตกอยู่ในช่วงอายุใหม่ที่ 46-50 ปีแทนช่วงเดิมที่อายุ 41-45 ปี
อย่างไรก็ดี ลูกค้าท่านนี้ได้ยื่นใบสมัคร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 โดยประสงค์อยากให้กรมธรรม์มีผลบังคับวันที่ 2 มกราคม 2556 หากพิจารณาแล้วอนุมัติผ่าน (อนึ่ง ลูกค้าจะขอ effective date ให้เป็นวันที่ก่อน 31 ธันวาคม 2555 หรือหลัง 30 มกราคม 2556 ไม่ได้ เพราะเกิน 30 วัน)
ในกรณีเช่นนี้ ลูกค้าจะถูกคิดค่าเบี้ยที่อัตราของอายุ 45 ปีเท่านั้น ตามช่วงอายุของลูกค้า ณ วันที่มีผลบังคับ
ส่วนผลการพิจารณารับประกันนั้น LMG จะนำส่งเป็น Offer Letter ที่แสดงเงื่อนไขในการรับประกันไว้ให้ลูกค้า โดยปกติภายใน 2-3 วันทำการ นับจากวันที่ LMG ได้รับใบสมัครและได้รับข้อมูลจากลูกค้าครบถ้วน เนื่องจากในบางกรณีลูกค้าผู้สมัครบางท่านอาจถูกกำหนดเงื่อนไขการรับประกันเพิ่มเติมได้ เช่น อาจมีการคิดค่าเบี้ยเพิ่มขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงทางสุขภาพของลูกค้ารายนั้น หรือมีข้อยกเว้นไม้คุ้มครองโรคบางโรคที่เข้าเงื่อนไขเป็นโรคที่เป็นมาก่อนการทำประกัน ซึ่ง LMG ยกเว้นไม่คุ้มครองอยู่แล้ว เป็นต้น